มหาเศรษฐีแดนผู้ดี พร้อมสร้างสถิติโลกยื่นซื้อ แมนยู

มาโหด มหาเศรษฐีแดนผู้ดี พร้อมสร้างสถิติโลกยื่นซื้อ แมนยู จาก “ตระกูลเกลเซอร์”

ธรรมดาโลกไม่จำ สโมสรอย่าง แมนยู ประกาศขายทีมทั้งที จะซื้อราคาปกติอาจจะเป็นไปไม่ได้ วันพฤหัสบดีที่ 24 เดือนพฤศจิกายน 2565 ภายหลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแถลงการณ์ไปเมื่อวานนี้ว่า ตระกูลเกลเซอร์ แม่งาน ของทีมพร้อมที่จะเปิดรับฟังข้อเสนอแนะซื้อขายแลกเปลี่ยนทีมหรือรวมถึงการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วยกันแล้ว หลัง 17 ปีที่เข้ามาคุมอำนาจใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกแฟนบอลไล่ และ ด่าไม่เว้นวัน

ซึ่ง ล่าสุด ซัน สปอร์ต สื่อกีฬามีชื่อของอังกฤษ ได้เปิดเผยว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่มีเงินมีทองมากที่สุดของประเทศอังกฤษ จัดแจงที่จะยื่นข้อเสนอให้ ตระกูลเกลเซอร์ ได้พิจารณาแล้ว โดยคาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีความคืบหน้าในประเด็นนี้

มีการคาดการณ์ว่า ตระกูลเกลเซอร์ ผู้ครอบครอง แมนยู คนปัจจุบันนี้ ได้ตั้งราคาขายหลังเกิดกระแสข่าวความพอใจเทคโอเวอร์ต่อจากพวกเขาเอาไว้ที่ 5,000 ล้านปอนด์ (220,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว อย่างไรก็แล้วแต่ ซัน สปอร์ต รายงาน

ว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หวังจะทุบสถิติโลกซื้อแมนยู มาครอบครองด้วยจำนวนเงินมากถึง 9 พันล้านปอนด์ หรือราว388,471 ล้านบาทเลยทีเดียว

เบคแคม พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู

“เบคแคม” พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

“เดวิด เบคแคม” ตำนานแข้ง “ทีมชาติอังกฤษ” และ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เตรียมความพร้อมที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเทกโอเวอร์ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

วันที่ 24 เดือนพฤศจิกายน 65 เดวิด เบคแคม กองกลางระดับตำนานของ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังที่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมความพร้อมที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเทกโอเวอร์ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูลเกลเซอร์ ที่เป็นเจ้าของทีมมานานกว่า 17 ปี จาการรายงานของ เดอะ ไทม์ส สื่อมีชื่อ

เป็นที่รู้เรื่องกันว่า โจเอล เกลเซอร์ กับ อัฟราม เกลเซอร์ 2 ญาติพี่น้องนักธุรกิจคนประเทศอเมริกา ได้เปิดเผยว่าพวกเขายินดีที่จะพูดจากับคนที่พร้อมจะเข้ามาซื้อสโมสร นอกเหนือจากนี้ยังมีการเปิดรับการดำเนินแผนงานด้วยกันโดยที่อาจจะมีการขายหุ้นจำนวนหนึ่งอีกด้วย แต่อย่างไรก็แล้วแต่ข้อแรกที่ต้องการขายทีมนั้นดูจะเป็นความต้องการสูงสุดมากกว่า

ทั้งนี้ เดวิด เบคแคม พร้อมที่จะกระทำการพูดจากับกลุ่มทุนใหม่ที่ต้องการเข้ามาเป็นผู้ครอบครองทีมคนใหม่ ท่ามกลางกระแสที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่เป็นแฟนบอลตัวยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด และอยู่ที่คัมป์นู ในนัดชิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 1999 นอกเหนือจากนี้ยังมีกลุ่มทุนจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ต้องการเข้ามาเป็นผู้ครอบครองทีมเช่นกัน

เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์

ทำเอาแฟน ลิเวอร์พูล มีเซ็ง! เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์แมนยู

เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีที่มีเงินมีทองที่สุดของ อังกฤษ แสดงท่าสนใจที่จะเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆแล้วหลังจากตระกูล เกลเซอร์ ผู้ครอบครองทีม ผีแดง สัญชาติ อเมริกัน ประกาศอย่างเป็นทางการพร้อมขายสโมสรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ตระกูล เกลเซอร์ สร้างความแปลกใจไม่น้อยที่ตกลงใจขายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเป็นเจ้าของสโมสรดังที่ พรีเมียร์ลีก มานาน 17 ปี และไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือแม้จะถูกกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ รวมตัวคัดค้านขับไล่ไสส่งหลายหนในหลายปีหลัง

ต่อสถานการณ์ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ รายงานเมื่อ 23 เดือนพฤศจิกายนว่า เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ขยับตัวตั้งท่าที่จะเทคโอเวอร์ ผีแดง แล้วหลังที่ผ่านมาไม่นานเขาออกโรงไม่ยอมรับการซื้อ ลิเวอร์พูล หากแม้กลุ่ม เอฟเอสจี จะแถลงขายสโมสรโดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้เงินลงทุนกับ นีซ ทีมลูกหนังของ ลีกเอิง ที่เขาเป็นเจ้าของต่อไป

กระนั้นดีแล้ว เป็นที่รู้กันว่าคนรวยที่มีเงินมีทองที่สุดของ อังกฤษ เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้เขาเคยแสดงท่าพร้อมซื้อทีมรักมาบริหารด้วยในตอนที่ตระกูล เกลเซอร์ ถูกแฟนบอลคัดค้านครั้งใหญ่หนล่าสุด แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับว่าไม่น่าจะเป็นได้เพราะเหตุว่าตระกูล เกลเซอร์ ไม่สนใจขายทีม

ต่อการแสดงความพร้อมเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆหลังมีการประกาศขายสโมสรจากนักธุรกิจชาว อเมริกัน นั้น เทเลกราฟ เผยว่าหากแม้ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ จะพร้อมยื่นข้อเสนอ แต่ไม่น่าจะยินดีควักเงินในกระเป๋าสูงถึง 5 พันล้านปอนด์ (ราว 216,950 ล้านบาท) ตามที่มีการคาดกันว่าตระกูล เกลเซอร์ หวังได้รับค่าจ้างราวนั้น

ทั้งนี้ เมื่อตอนซัมเมอร์ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ กลายเป็นข่าวกับ เชลซี เช่นกันหลังทางการเมืองผู้ดีบังคับให้ โรมัน อบราโมวิช คนรวย รัสเซีย ขายทีมจากปัญหาเกี่ยวกับการทำสงครามกับ ยูเครน แต่เป็น ทอดด์ โบลีห์ นักลงทุนชาวเมืองแยงกี้ที่แสดงความเอาจริงเอาจังมากกว่า และได้เป็นเจ้าของ สิงห์บลูส์ ในท้ายที่สุด